Recent Posts
เปิดรายชื่อ 9 ประเทศใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล
เปิดรายชื่อ 9 ประเทศใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล
ถ้าคุณเคยมีความต้องการที่จะขับรถต่างประเทศและกังวลกับการทำใบขับขี่สากลที่อาจเป็นเรื่องซับซ้อนและเวลา-consuming ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! มีประเทศที่คุณสามารถใช้ใบขับขี่ไทยของคุณได้โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากล ลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางของคุณไปยังประเทศต่างๆ ดังนั้นเพียงแค่เตรียมตัวและเริ่มการผจญภัยของคุณได้เลย!
1. ลาว
เมื่อคุณมีใบขับขี่ไทยคุณสามารถนำมันไปใช้ในประเทศลาวได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ เพียงแค่แสดงใบขับขี่และเอกสารที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนดของประเทศนั้นๆ
2. เวียดนาม
การเดินทางถึงเวียดนามก็ไม่ใช่ปัญหาหากคุณมีใบขับขี่ไทย คุณจะสามารถใช้ใบขับขี่นั้นในเวียดนามได้อย่างสบายดาย แต่อย่าลืมตรวจสอบกฎระเบียบที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
3. กัมพูชา
กัมพูชาก็เป็นหนึ่งในประเทศที่คุณสามารถนำใบขับขี่ไทยไปใช้ได้โดยไม่ต้องมีใบขับขี่สากล การเตรียมเอกสารที่จำเป็นเช่นเอกสารประจำตัวและใบขับขี่เป็นสิ่งสำคัญ
4. เมียนมาร์
เมียนมาร์ยังคงเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว และคุณสามารถนำรถยนต์ที่คุณขับตามใบขับขี่ไทยไปใช้ในเมียนมาร์ได้
5. มาเลเซีย
สำหรับการเดินทางไปยังมาเลเซีย คุณไม่จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากล ใบขับขี่ไทยก็เพียงพอสำหรับการขับรถในประเทศนี้
6. อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และด้วยใบขับขี่ไทยคุณสามารถสำรวจทุกมุมของประเทศนี้ได้
7. บรูไน
บรูไนเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...
เกาหลีใต้ยืนยันกินซีฟู้ดปลอดภัย เผยกัมมันตรังสีในทะเลอยู่ในเกณฑ์ของ WHO
เกาหลีใต้ยืนยันกินซีฟู้ดปลอดภัย เผยกัมมันตรังสีในทะเลอยู่ในเกณฑ์ของ WHO
เมื่อญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดลงสู่ทะเล สิ่งนี้เกิดความกังวลใจให้กับประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบนิเวศทางทะเลและผลิตภัณฑ์ประมง แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ยืนยันว่าอาหารทะเลยังคงมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค
ความยืนยันความปลอดภัยในการบริโภคอาหารทะเล
การยืนยันความปลอดภัยในการบริโภคอาหารทะเลได้รับการสื่อสารจากระดับผู้นำของเกาหลีใต้ ซึ่งประกอบด้วยนายยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีและนายฮัน ด็อก-ซู นายกรัฐมนตรี เมื่อเขากินอาหารทะเลร่วมกันและโชว์ในสื่อเพื่อให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่าการบริโภคอาหารทะเลยังคงปลอดภัย นี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
การบริโภคอาหารทะเลร่วมกัน
ที่นำขึ้นที่เกาหลีใต้รายงานว่า การบริโภคอาหารทะเลร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมประจำสัปดาห์ ซึ่งเป้าหมายของการกระทำนี้คือการโปรโมตว่าอาหารทะเลยังคงมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะได้ดำเนินการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทร
การบริการอาหารทะเลที่เนียบนำเข้า
ทางเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้จัดเตรียมการบริการอาหารทะเลในห้องอาหารของประธานาธิบดีด้วย แถมยังมีเมนูอาหารทะเลหลากหลายชนิดที่จะเสิร์ฟให้กับประชาชนตลอดสัปดาห์ ตั้งแต่ปลาแมกเคอเรลดิบทอดจนถึงปลาย่างเมื่อวันจันทร์
จำนวนผู้รับประทานอาหารเพิ่มขึ้น
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จำนวนผู้รับประทานอาหารทะเลที่เนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้มีมากกว่าปกติถึง 1.5 เท่า และสังเกตเห็นว่าพนักงานจำนวนมากยกเลิกการนัดทานอาหารกลางวันเพื่อมารับประทานอาหารทะเลที่เนียบประธานาธิบดี
ปลอดภัยในการปนเปื้อนกัมมันตรังสี
การปนเปื้อนกัมมันตรังสีในน้ำทะเลของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ชายฝั่งเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในเกณฑ์ของมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) แม้ว่าญี่ปุ่นจะได้กล่าวว่าการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีดังกล่าวจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามหลักวิทยาศาสตร์
ผลการทดสอบ
ผลการทดสอบล่าสุดแสดงให้เห็นถึงระดับความเข้มข้นของกัมมันตรังสีในน้ำทะเล โดยซีเซียม-135...
สาเหตุของ “มะเร็งปอด” มะเร็งที่เสี่ยงเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1
สาเหตุของ "มะเร็งปอด" มะเร็งที่เสี่ยงเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1
อาการของมะเร็ง
มะเร็งปอดเป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ที่อยู่ในปอดเริ่มเจริญเติบโตอย่างไม่ปกติ ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้ และเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด ซึ่งสาเหตุหลักของมะเร็งปอดเกิดจากการสูบบุหรี่
บุหรี่และมะเร็งปอด
การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด มีสารเคมีต่างๆ ในบุหรี่ที่สามารถทำลายเนื้อเยื่อในปอดได้ ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในการเกิดมะเร็งปอด เนื่องจากมีสารเคมีมากมายที่เกิดจากการเผาไหม้ในบุหรี่ เมื่อสูบบุหรี่เข้าไปในปอด สารเคมีจะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อปอดเป็นเวลานาน ทำให้เซลล์ปอดเริ่มเจริญเติบโตอย่างไม่ปกติและเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งได้
อาการของมะเร็งปอด
อาการของมะเร็งปอดอาจแตกต่างกันไปตามสถานะของโรคและระยะของการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง อาการที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยมะเร็งปอดได้แก่
ไอเรื้อรังที่ไม่หายขึ้นหรือเป็นไข้
หายใจลำบาก
เจ็บหน้าอก
ผอมลงอย่างรวดเร็ว
มีเสมหะหรือเลือดออกผ่านทางลำคอ
การรักษามะเร็งปอด
การรักษามะเร็งปอดจะขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสถานะของผู้ป่วย วิธีการรักษาที่พบบ่อยในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งปอดได้แก่
การผ่าตัดเอาเนื้อมะเร็งออก
การใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
การใช้เคมีบำบัดเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
...
5 ประเด็นที่ต้องพูดคุยก่อนแต่งงาน
5 ประเด็นที่ต้องพูดคุยก่อนแต่งงาน
การแต่งงานเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของคู่รัก ก่อนที่จะเริ่มต้นการเตรียมพร้อมสำหรับวันสำคัญนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ เพื่อให้ทั้งสองคนเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ดังนั้น ข้อควรรู้เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรพูดคุยกันก่อนที่จะตัดสินใจเดินสู่พิธีแต่งงาน
1. วันที่และสถานที่จัดงาน
เลือกวันที่และสถานที่จัดงานที่เหมาะสมสำหรับคุณและคู่รักของคุณ สอบถามกันเกี่ยวกับวันที่ที่ทั้งคู่คิดว่าเหมาะสมที่สุดและสถานที่ที่ต้องการจัดงาน เพื่อให้สอดคล้องกับความฝันและความต้องการของทั้งสองฝ่าย
2. งบประมาณและการจัดการทางการเงิน
พูดคุยเกี่ยวกับงบประมาณที่คุณและคู่รักต้องการใช้ในการแต่งงาน สอบถามกันเกี่ยวกับการจัดการทางการเงินที่เหมาะสมควรและความสามารถในการทำให้งบประมาณเหลืออยู่ในเกณฑ์ที่สามารถจัดการได้ การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเงินจะช่วยให้คุณและคู่รักมีความเข้าใจร่วมกันในเรื่องทางการเงินและลดโอกาสเกิดข้อขัดแย้งในอนาคต
3. แผนการจัดงานและรายละเอียด
พูดคุยกันเกี่ยวกับแผนการจัดงานและรายละเอียดต่างๆ เช่น การเลือกบริการและผู้ให้บริการต่างๆ การตกแต่งงาน การจัดเลี้ยงและเครื่องดื่ม สถานที่และการเลือกเมนูอาหาร รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกายและธีมงาน การพูดคุยเกี่ยวกับแผนการจัดงานและรายละเอียดที่ต้องการจะช่วยให้คุณและคู่รักมีการวางแผนที่มั่นใจและสอดคล้องกัน
4. บทบาทและความรับผิดชอบ
พูดคุยกันเกี่ยวกับบทบาทและความรับผิดชอบของทั้งคู่รักในการแต่งงาน สอบถามกันเกี่ยวกับความคาดหวังและหน้าที่ของคนในบทบาทต่างๆ เช่น...
ดื่มแอลกอฮอล์ได้แค่ไหนเมื่อขับรถ จะไม่โดนจับ?
ดื่มแอลกอฮอล์ได้แค่ไหนเมื่อขับรถ จะไม่โดนจับ? ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ยอมรับตามกฎหมาย
การดื่มแอลกอฮอล์เมื่อต้องขับรถเป็นเรื่องที่ต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากมีกฎหมายที่กำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ยอมรับได้เมื่อขับรถ หากเกินปริมาณที่กำหนด นั่นจะถือว่าคุณเมาแล้วและอาจถูกลงโทษตามกฎหมาย ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่ยอมรับตามกฎหมาย เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเมื่อไหร่และในปริมาณใดคุณสามารถดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้เรายังจะแนะนำเคล็ดลับในการควบคุมปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเพื่อรักษาความปลอดภัยในการขับรถของคุณ
ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ยอมรับตามกฎหมาย
ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ในประเทศไทย ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ยอมรับต่อคนขับรถไม่ควรเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (mg/dL) หากเกินปริมาณดังกล่าว จะถือว่าคนขับรถเมาแล้วและจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษความจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับเงินตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำคุกและปรับเงิน...