กินหมากฝรั่งแล้วกลืนจะเกิดอะไรขึ้น

กินหมากฝรั่งแล้วกลืนจะเกิดอะไรขึ้น

หมากฝรั่งเป็นขนมขบเคี้ยวยอดนิยมที่ได้รับความนิยมทั่วโลก หลายคนชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อดับกลิ่นปาก แก้ง่วง หรือเพิ่มความสดชื่น แต่หลายคนก็กังวลว่าหากกลืนหมากฝรั่งเข้าไปจะอันตรายหรือไม่

หมากฝรั่งทำจากอะไร

หมากฝรั่งที่เราเคี้ยวกันทุกวันนี้ไม่ได้ทำมาจากยางไม้ของต้นไม้ อย่างที่หลายคนอาจจะเคยเข้าใจ แต่ส่วนประกอบหลักของหมากฝรั่งกลับทำมาจากสารสังเคราะห์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนสำคัญๆ 3 ส่วน ดังนี้

1.ฐานหมากฝรั่ง (Gum base)

ส่วนนี้เป็นส่วนที่ทำให้หมากฝรั่งเหนียว ยืดหยุ่น และคงรูปอยู่ได้ โดยทำมาจากสารสังเคราะห์ประเภทพอลิเมอร์ เช่น โพลีไอโซบูทิลีน (polyisobutylene) ผสมกับเรซินและสารอื่นๆ

2.สารให้ความหวาน (Sweeteners)

หมากฝรั่งส่วนใหญ่จะใช้อะสปาแตม(aspartame) ซูคราโลส(sucralose) หรือไซลิทอล(xylitol) เป็นสารให้ความหวาน เนื่องจากให้พลังงานต่ำและไม่ก่อให้ฟันผุ

3.กลิ่นและสี (Flavorings and colorings)

ส่วนนี้เป็นส่วนที่ทำให้หมากฝรั่งมีกลิ่น และสีที่ชวนรับประทาน โดยใช้สารสังเคราะห์ที่ปลอดภัยต่อการบริโภค

แม้ว่าหมากฝรั่งส่วนใหญ่จะทำมาจากสารสังเคราะห์ แต่ก็มีบางชนิดที่ใช้ยางไม้จากธรรมชาติ เช่น chicle gum ซึ่งสกัดมาจากยางของต้นชิกุล (Manilkara chicle) แต่หมากฝรั่งประเภทนี้มีค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีราคาสูงกว่าหมากฝรั่งที่ทำจากสารสังเคราะห์

กินหมากฝรั่งแล้วกลืนจะเกิดอะไรขึ้น

กินหมากฝรั่งแล้วกลืน อันตรายหรือไม่?

กินหมากฝรั่งแล้วกลืน อันตรายหรือไม่? กินหมากฝรั่งแล้วกลืน ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือเป็นโรคลำไส้อักเสบได้จริงหรือ?

ตามข้อมูลของ Mayo Clinic การหกลืนหมากฝรั่งนั้นโดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ถึงแม้ว่าร่างกายของเราไม่สามารถย่อยหมากฝรั่งได้ แต่หมากฝรั่งก็จะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และจะถูกขับออกมาทางอุจจาระในที่สุด

หมากฝรั่งจะใช้เวลาประมาณ 7-20 วันในการย่อยสลายในระบบทางเดินอาหาร แต่ส่วนใหญ่แล้วหมากฝรั่งจะถูกขับออกมาทางอุจจาระภายใน 24 ชั่วโมง

ดังนั้น การกลืนหมากฝรั่งจึงไม่ได้ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือเป็นโรคลำไส้อักเสบแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังบางประการในการกลืนหมากฝรั่ง ดังนี้

หมากฝรั่งที่มีขนาดใหญ่หรือเหนียวเกินไป เพราะอาจทำให้ติดคอหรืออุดตันทางเดินหายใจได้

  1. การติดคอ แม้ว่าหมากฝรั่งจะไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดคอมากกว่าอาหารชนิดอื่น แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก หรือผู้ที่กลืนหมากฝรั่งชิ้นใหญ่เกินไป
  2. การอุดตันในทางเดินอาหาร ในบางกรณี การกลืนหมากฝรั่งก้อนใหญ่ หรือกลืนหมากฝรั่งหลายชิ้นในเวลาสั้นๆ อาจทำให้เกิดการอุดตันในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอยู่แล้ว

ไม่ควรกลืนหมากฝรั่งบ่อยๆ เพราะอาจทำให้ลำไส้อุดตันได้

เป็นความจริงที่ไม่ควรกลืนหมากฝรั่งบ่อยๆ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหารได้

การกลืนหมากฝรั่งส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่การกลืนบ่อยๆ หรือในปริมาณมาก โดยเฉพาะในเด็กเล็กหรือผู้ที่มีภาวะสุขภาพทางเดินอาหารบางอย่าง อาจมีโอกาสเกิดปัญหาได้ดังนี้

  • การอุดตันของลำไส้ พบได้น้อยมาก แต่อาจเกิดขึ้นได้หากกลืนหมากฝรั่งปริมาณมาก หรือกลืนบ่อยๆ รวมกับอาการท้องผูก
  • การสะสมของหมากฝรั่งในร่างกาย แม้ว่าร่างกายจะไม่สามารถย่อยหมากฝรั่งได้ แต่หมากฝรั่งส่วนใหญ่จะเคลื่อนผ่านระบบย่อยอาหารและถูกขับออกทางอุจจาระ อย่างไรก็ตาม การกลืนบ่อยๆ อาจทำให้หมากฝรั่งสะสมในร่างกายได้

คำแนะนำเพื่อป้องกันปัญหา

  • ไม่ควรกลืนหมากฝรั่งเป็นประจำ
  • ทิ้งหมากฝรั่งในถังขยะหลังเคี้ยวเสร็จ
  • เลือกหมากฝรั่งชนิดที่ย่อยสลายได้ง่ายกว่า
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยในการเคลื่อนตัวของหมากฝรั่งในระบบทางเดินอาหาร
  • หากเผลอกลืนหมากฝรั่งปริมาณมาก หรือมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร ควรปรึกษาแพทย์

ไม่ควรกลืนหมากฝรั่งหากมีอาการท้องผูก เพราะอาจทำให้อาการท้องผูกแย่ลงได้

  • การศึกษาพบว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งสามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้ แต่การกลืนหมากฝรั่งอาจทำให้หมากฝรั่งเกาะตัวเป็นก้อนใหญ่ในลำไส้ และอาจอุดตันทางเดินอาหารได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพทางเดินอาหาร
  • รายงานจากโรงพยาบาลเด็กของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การกลืนหมากฝรั่งในปริมาณเล็กน้อย โดยทั่วไปจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่การกลืนหมากฝรั่งในปริมาณมากหรือบ่อยๆ อาจทำให้หมากฝรั่งเกาะตัวเป็นก้อนใหญ่ในลำไส้ และอาจอุดตันทางเดินอาหารได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงได้

ดังนั้น หากมีอาการท้องผูก ควรหลีกเลี่ยงการกลืนหมากฝรั่ง และควรดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

การกลืนหมากฝรั่งโดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ควรกลืนหมากฝรั่งอย่างระมัดระวัง และไม่ควรกลืนหมากฝรั่งบ่อยๆ

แหล่งอ้างอิงทางวิชาการที่สนับสนุนข้อเท็จจริงนี้ ได้แก่

Mayo Clinic
KidsHealth

เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญงานเขียน

นามปากกา : จุดสมดุล

LEAVE A RESPONSE

Your email address will not be published. Required fields are marked *