Recent Posts
น้ำตาล VS เกลือ: อันไหนทำร้ายร่างกายมากกว่ากัน?
น้ำตาล VS เกลือ: อันไหนทำร้ายร่างกายมากกว่ากัน?
น้ำตาล vs เกลือ: ทำความรู้จักกับสารอาหารที่สำคัญ
1. น้ำตาล
น้ำตาลเป็นสารอาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกายของเรา น้ำตาลมีหลายรูปแบบ เช่น น้ำตาลหวานที่พบได้ในผลไม้ น้ำตาลทรายที่ใช้ในการหวนกาแฟ และน้ำตาลที่เพิ่มให้รสชาติหวานในอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ
2. เกลือ
เกลือเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์สำหรับการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย และเป็นตัวช่วยในการควบคุมความดันโลหิต การบริโภคเกลืออย่างเหมาะสมช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างปกติ
ผลกระทบต่อร่างกาย
1. ผลกระทบของน้ำตาล
การบริโภคน้ำตาลเกินไปอาจมีผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกาย การบริโภคน้ำตาลเป็นประจำอาจทำให้เกิดภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน อ้วน เส้นเลือดตีบตัน และโรคหัวใจ
2. ผลกระทบของเกลือ
เกลือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย...
น้ำที่เหลือจากการแช่เห็ดหอม ห้ามนำมาปรุงอาหาร จริงหรือไม่
น้ำที่เหลือจากการแช่เห็ดหอม ห้ามนำมาปรุงอาหาร จริงหรือไม่
สำหรับนักค้นความอร่อยและคนที่หลงใหลในการทำอาหารต่าง ๆ น่าจะเคยได้ยินเสียงแนะนำเรื่องน้ำที่เหลือจากการแช่เห็ดหอม ว่าควรจะหลีกเลี่ยงไม่นำมาปรุงอาหาร เพราะว่ามีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ แต่เราควรจะเชื่อคำแนะนำเหล่านี้หรือไม่? ในบทความนี้เราจะมาสำรวจความจริงเกี่ยวกับเรื่องน้ำที่เหลือจากการแช่เห็ดหอมและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการนำมาปรุงอาหารจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและเคมีอาหาร โดยคำแนะนำของรศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะถูกนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดและเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการพิจารณาเรื่องนี้
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่เหลือจากการแช่เห็ดหอม
มีข้อกล่าวอ้างว่าในน้ำที่เหลือจากการแช่เห็ดหอม อาจมีการปนเปื้อนสารคาร์บอนไดซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสารที่ใช้ล้างสนิมและอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ การรับประทานสารคาร์บอนไดซัลไฟด์ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังและระบบหายใจล้มเหลวได้ ทั้งนี้ยังสามารถสะสมในร่างกายได้เป็นระยะเวลานาน ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและเสื่อมสภาพของผู้รับประทานเช่นเดียวกับผู้ที่เป็นโรคจิต
แต่ต้องย้ำว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เป็นความจริงที่เชื่อถือได้ รศ.ดร.เจษฎา กล่าวว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่รับรองถึงการปนเปื้อนของสารคาร์บอนไดซัลไฟด์ในเห็ดหอมแห้ง นอกจากนี้ การค้นหาข่าวเกี่ยวกับสารเคมีตกค้างในเห็ดหอมแห้งที่ขายในประเทศไทยยังไม่ได้พบข้อมูลที่ยืนยันถึงความปลอดภัยในการบริโภค
การสรุปและคำแนะนำ
จากข้อมูลที่ได้มา...
อาหารเป็นพิษ ควรรับประทานและหลีกเลี่ยงอย่างไร
อาหารเป็นพิษ ควรรับประทานและหลีกเลี่ยงอย่างไร
อาหารเป็นพิษเป็นภาวะที่ร่างกายได้รับเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน คลื่นไส้ และปวดท้อง เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นกับทุกคน แต่มักพบบ่อยในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ในบทความนี้เราจะพูดถึงอาหารที่ควรรับประทานและหลีกเลี่ยงเมื่อเกิดอาหารเป็นพิษ พร้อมกับเคล็ดลับในการป้องกันภาวะนี้ไว้อย่างละเอียด ๆ
อาหารเป็นพิษ ไม่ควรกินอะไร
อาหารที่มีไขมันสูง: เนื้อสัตว์ อาหารทะเล อาหารทอดซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ง่ายขึ้น
อาหารที่มีน้ำตาลสูง: ขนมหวาน น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงอาจทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ทำงานได้อย่างเต็มที่ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะอาหารเป็นพิษ
อาหารที่มีกากใยสูง:...
เอกสารต่อใบขับขี่ 2566 ใช้อะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
การต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี
ในการต่ออายุใบขับขี่ชนิด 5 ปี เอกสารที่จำเป็นต้องใช้คือใบขับขี่เดิมหรือใบแทนและบัตรประชาชนฉบับจริง ค่าใช้จ่ายสำหรับการต่อใบขับขี่ชนิดนี้จะเป็น 505 บาทสำหรับรถยนต์และ 255 บาทสำหรับรถจักรยานยนต์
การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
8 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบบี
8 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบบี
1. โรคไวรัสตับอักเสบบีไม่ได้มาจากการสัมผัสร่วมกับผู้ป่วย
โรคไวรัสตับอักเสบบีเป็นโรคที่ติดต่อได้ผ่านทางเลือดและน้ำเชื้อช่องปาก ไม่จำเป็นต้องมีการสัมผัสร่วมกับผู้ป่วยในทางเดียวกัน เช่น การใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วยหรือการสัมผัสผิวหนัง เป็นต้น การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ผู้ป่วยใช้ร่วมกันก็ไม่สามารถติดเชื้อได้ ดังนั้นควรระมัดระวังในการใช้หมอนและแปรงสีฟันในบ้านที่มีผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในครอบครัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคไวรัสตับอักเสบบีในครอบครัว
2. โรคไวรัสตับอักเสบบีไม่สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาตัวเดียว
โรคไวรัสตับอักเสบบีแบบเรื้อรังสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง แต่จะต้องใช้เวลาและความตรงต่อเวลาในการรักษาอย่างถี่ถ้วน การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีบางครั้งอาจจะใช้ระยะเวลานานถึงหลายปี การรักษาจำเป็นต้องรับรู้ถึงสภาวะแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นอย่างดี
3. การตรวจวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบบีสามารถทำได้โดยตรง
การตรวจวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบบีสามารถทำได้โดยตรงผ่านการตรวจเลือด เพื่อตรวจวัดระดับเอนไซม์ในตับ หรือผ่านการตรวจความเป็นไปได้ของเชื้อไวรัสในเลือด เพื่อคัดกรองหรือวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบบีได้อย่างแม่นยำ การตรวจวินิจฉัยต้องทำในห้องปฏิบัติการที่มีความชำนาญและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้ผลการตรวจเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำ
4. โรคไวรัสตับอักเสบบีสามารถป้องกันได้
โรคไวรัสตับอักเสบบีสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้สูงสุด การฉีดวัคซีนทำได้ง่ายและปลอดภัย และสามารถรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีได้ที่โรงพยาบาลหรือศูนย์รับวัคซีนต่าง...