Hotels/Resorts

10 สาเหตุที่ทำให้ “เท้าบวม”

10 สาเหตุที่ทำให้ “เท้าบวม” 1. นั่ง หรือยืนนานเกินไป การนั่งหรือยืนนานเป็นสาเหตุหนึ่งที่สามารถทำให้เท้าบวมได้ การใช้เวลานานในการนั่งหรือยืนโดยไม่มีการเคลื่อนไหวทำให้เลือกน้ำย่อยลดลงและเกิดการระบายของของเสียที่ช้าลง ทำให้น้ำในร่างกายค้างตามตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นจะทำให้เกิดอาการบวมบริเวณเท้า 2. ทานโซเดียมมากเกินไป การบริโภคโซเดียมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สามารถทำให้เกิดอาการบวมเท้าได้ โซเดียมมีความสัมพันธ์กับการระบายของของเสียในร่างกาย การบริโภคโซเดียมมากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำในร่างกายสูงขึ้น และเกิดการความดันที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดการค้างตัวของน้ำในเนื้อเยื่อและเกิดอาการบวมบริเวณเท้า 3. ผลข้างเคียงจากการทานยา บางประเภทของยาอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการบวมบริเวณเท้า การทานยาบางชนิดอาจทำให้ระดับน้ำในร่างกายสูงขึ้น และทำให้เกิดการค้างตัวของน้ำในเนื้อเยื่อ ซึ่งจะทำให้เท้าบวมได้ 4. ตั้งครรภ์ สภาวะการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะทำให้ระดับน้ำในร่างกายสูงขึ้น ฮอร์โมนที่มีผลต่อการระบายของของเสียจะมีปริมาณมากขึ้น ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการบวมบริเวณเท้าได้ 5. น้ำหนักมากเกินไป การที่น้ำหนักของร่างกายเป็นเกินความเหมาะสมอาจทำให้มีความกดทับต่อเท้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้เลือกน้ำย่อยลดลงและเกิดการค้างตัวของน้ำในเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดอาการบวมบริเวณเท้าได้ 6. ข้อเท้า หรือเท้ามีอาการบาดเจ็บ การบาดเจ็บของข้อเท้าหรือเท้าอาจทำให้เกิดการอักเสบและการระบายของของเสียช้าลง ทำให้น้ำในร่างกายค้างตามเนื้อเยื่อและเกิดอาการบวมบริเวณเท้า 7. ฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง…

Hotels/Resorts

วิธีป้องกัน “โรคไต” ทำได้แข็งแรงแน่นอน

วิธีป้องกัน “โรคไต” ทำได้แข็งแรงแน่นอน เมื่อพูดถึงสุขภาพทั่วไปของร่างกาย เราไม่ควรที่จะละเลยเรื่องโรคไต โรคเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดความเสียหายให้กับระบบไตของเราได้ ดังนั้น วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันโรคไตให้ร่างกายของเราแข็งแรงและแน่นอน ด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน 1. ดื่มน้ำเพียงพอ การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการรักษาสุขภาพของไต น้ำช่วยในการขับถ่ายสารต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากร่างกาย ดังนั้นควรดื่มน้ำเพียงพอตามความต้องการของร่างกายเสมอ 2. รักษาระดับน้ำตาลในเลือด การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไต ควรรักษาอาหารที่รับประทานให้ครบถ้วนและสมดุลย์ และหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง 3. ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างสุขภาพของร่างกายทั้งทางกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลให้อยู่ในระดับที่ดี ทำให้ระบบไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. รับประทานอาหารที่เหมาะสม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์สำหรับระบบไตเป็นสิ่งสำคัญ ควรรับประทานผักผลไม้ที่มีสารอาหารสูง เช่น ส้ม แตงโม และผักใบเขียว รวมทั้งควรลดการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบที่ไม่ดีต่อร่างกาย เช่น อาหารจากแห้ง อาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง เป็นต้น 5….

Hotels/Resorts

วิธีกำจัดแมลงเข้าหูวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

วิธีกำจัดแมลงเข้าหูวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 1. ทำความรู้จักกับปัญหาแมลงเข้าหู เมื่อเราพูดถึง “แมลงเข้าหู” เราคงต้องการความรู้เกี่ยวกับวิธีการกำจัดแมลงที่เข้าไปในหูของเราอย่างไม่ได้เป็นที่ต้องการ การเจาะเข้าไปในหูสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แมลงบินเข้าไปในหูโดยไม่ตั้งใจ หรือการอยู่ในสถานที่ที่มีแมลงอยู่มาก เมื่อเรามีปัญหาดังกล่าว เราจำเป็นต้องแก้ไขและกำจัดแมลงให้ถูกต้องและปลอดภัย 2. ขั้นแรก: อย่าเสียเวลา เมื่อรู้สึกมีแมลงเข้าหู สิ่งที่เราควรทำคืออย่าใช้เวลาเพิ่มเติมในการเอามันออกเอง การพยายามใช้นิ้วหรือเครื่องมือเข้าไปดึงแมลงออกอาจทำให้แมลงกดทับลงไปข้างในหูมากขึ้น และอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือซีดร้ายได้ ดังนั้น ขั้นแรกที่ควรทำคือรีบพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่รับผิดชอบด้านนี้ 3. อย่าเสี่ยงต่อการทำลายหู การพยายามใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ปลอดภัยในการกำจัดแมลงเข้าหูอาจส่งผลต่อสุขภาพของหูและอวัยวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การใช้สิ่งของที่มีขนาดเล็กเช่น ไม้ชักหู หรือการใช้เครื่องดูดจับที่ไม่เหมาะสมสามารถทำลายหูหรือระบบหูฟังได้ อีกทั้งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อหูได้อีกด้วย ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์ที่ได้รับการปรึกษาเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น 4. ป้องกันอย่างไรให้แมลงไม่เข้าหู เพื่อป้องกันการเจาะเข้าไปในหูของคุณ คุณสามารถดำเนินการเพื่อป้องกันได้ดังนี้: สวมหูฟังหรือหูฟังกันเสียงที่เหมาะสมเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีแมลงอยู่มาก หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีแมลงมาก ควรใส่หูฟังหรือทำสิ่งป้องกันเพิ่มเติมเพื่อป้องกันแมลงเข้าไปในหู ปิดหูอย่างแน่นหนาด้วยผ้าหรือวัสดุที่ไม่ให้แมลงเจาะเข้าไปในหูของคุณ…

Hotels/Resorts

5 ผักสมุนไพรสุดเจ๋ง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

5 ผักสมุนไพรสุดเจ๋ง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ผักสมุนไพรมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาวิธีทางธรรมชาติที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ อย่าพลาดที่จะลองใช้ผักสมุนไพรที่มีคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ ผักสมุนไพรเหล่านี้ไม่เพียงทำให้อาหารของคุณอร่อยขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ทางสุขภาพที่น่าทึ่งอีกมากมาย 1. มะระขี้นก มะระขี้นกเป็นผักสมุนไพรที่มีความหวานและเปรี้ยว ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบริโภคมะระขี้นกเป็นประจำจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณค่าสูง ช่วยสร้างความอิ่มและช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดี 2. ใบกะเพรา กะเพราเป็นสมุนไพรที่ใช้ในการทำอาหารและยังมีคุณค่าทางสุขภาพมากมาย และมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย กะเพรามีสารสำคัญที่ชื่อว่า “ไคเอ็มซีแทร็คติน” ซึ่งช่วยลดการสลายของน้ำตาลในกระแสเลือด การบริโภคกะเพราเป็นประจำจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 3. ใบตำลึง ใบตำลึงเป็นสมุนไพรที่มีรสชาติเปรี้ยว และเป็นที่นิยมในอาหารไทยมากที่สุด ใบตำลึงมีสารอาหารที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะสารที่ชื่อว่า “ฟินอล” ซึ่งช่วยลดการสลายของน้ำตาลในร่างกาย การบริโภคใบตำลึงเป็นประจำจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 4. แมงลัก แมงลักเป็นผักสมุนไพรที่มีรสชาติหอมหวาน และเป็นที่นิยมในอาหารไทยมากที่สุด แมงลักเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณค่าสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบริโภคแมงลักเป็นประจำจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของระบบต่างๆในร่างกาย 5….

Hotels/Resorts

แนะนำอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ “เจ็บคอ”

แนะนำอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ “เจ็บคอ” นม นมเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีอาการ “เจ็บคอ” และช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้อย่างสมบูรณ์ คุณสามารถดื่มนมร้อนหรือนมเย็นได้ตามความชอบของคุณ เกี๊ยวน้ำ เกี๊ยวน้ำเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับการบรรเทาอาการ “เจ็บคอ” เนื้อเกี๊ยวน้ำนุ่มนวลและน้ำซุปหวานเปรี้ยวจะช่วยลดอาการเจ็บคอได้ ข้าวต้ม โจ๊ก ข้าวต้มและโจ๊กเป็นอาหารที่อ่อนโยนต่อเส้นเอ็น ด้วยความนุ่มนวลของข้าวต้มและโจ๊ก สามารถช่วยลดอาการเจ็บคอได้ ไข่คน ไข่คนเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและอุดมไปด้วยวิตามิน เมื่อคุณมีอาการเจ็บคอ การบริโภคไข่คนจะช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผลไม้ปั่น ผลไม้ปั่นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการบรรเทาอาการเจ็บคอ ผลไม้สดเต็มไปด้วยวิตามินและเส้นใยที่ช่วยล้างเสมหะในลำคอ น้ำซุปต้มกระดูก น้ำซุปต้มกระดูกเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยบรรเทาอาการ “เจ็บคอ” น้ำซุปร้อนมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการคอแห้ง ในการบรรยายถึงอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ “เจ็บคอ” คุณสามารถใช้อาหารดังกล่าวเป็นตัวเลือกที่ดีในการบรรเทาอาการเจ็บคอของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่านควรปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการเจ็บคอรุนแรงกว่าเดิม

Hotels/Resorts

ไขปัญหาข้องใจ “ไซนัสอักเสบ” เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ไขปัญหาข้องใจ “ไซนัสอักเสบ” เกิดขึ้นได้อย่างไร? สาเหตุของการเกิดไซนัสอักเสบ ไซนัสอักเสบเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในบุคคลที่มีอายุมากขึ้น ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นอาจมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดโรคนี้ ดังนั้น บทความนี้จะช่วยให้คุณทราบถึงสาเหตุของไซนัสอักเสบอย่างถูกต้องและเน้นการใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมความน่าสนใจและค้นหาของเว็บไซต์ของคุณในเครื่องมือการค้นหา ดังนั้น อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้! 1. การเกิดการอักเสบในข้อไซนัส การเกิดการอักเสบในข้อไซนัสสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม การติดเชื้อจากแบคทีเรีย และการเจ็บป่วยที่ส่งผลให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเพราะกระแสเลือดที่ไม่เพียงพอที่จะบำรุงรักษาเซลล์ของข้อไซนัสอย่างเหมาะสม คำที่สำคัญที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้คือ “การอักเสบในข้อไซนัส” และ “สาเหตุของการอักเสบในข้อไซนัส” 2. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ไม่เหมาะสม พฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดไซนัสอักเสบ การบริโภคอาหารที่มีปริมาณโปรตีนน้อยหรือโปรตีนที่ไม่ครบถ้วนอาจทำให้เกิดภาวะอักเสบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การดูแลสุขภาพที่ไม่เพียงพอ เช่น การไม่ออกกำลังกายหรือฝึกท่าทางที่ไม่ถูกต้องอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นไซนัสอักเสบ คำที่สำคัญที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้คือ “พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ” และ “การดูแลสุขภาพที่ไม่เหมาะสม” 3. ปัจจัยเชิงสุขภาพที่เกี่ยวข้อง การเกิดไซนัสอักเสบอาจเกิดจากปัจจัยเชิงสุขภาพที่เกี่ยวข้อง เช่น อายุที่มากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์กระดูกและข้ออาจเสื่อมสภาพได้…

Hotels/Resorts

13 ผักผลไม้ตกค้าง “สารพิษ” จากยาฆ่าแมลงมากที่สุด

13 ผักผลไม้ตกค้าง “สารพิษ” จากยาฆ่าแมลงมากที่สุด 13 ผักผลไม้ที่มีสารพิษตกค้างจากยาฆ่าแมลงมากที่สุด เมื่อพูดถึงผักผลไม้ที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน หลายๆ คนอาจคิดว่าผักผลไม้เหล่านั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา แต่ในความเป็นจริง มีบางชนิดของผักผลไม้ที่อาจมีสารพิษตกค้างจากยาฆ่าแมลง ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อร่างกายได้ ดังนั้น เราควรทราบถึงผักผลไม้เหล่านี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ 1. พริกแดง 100% 2. ส้ม 100% 3. ฝรั่ง 100% 4. แก้วมังกร 71.4% 5. มะละกอ 66.7% 6. กะเพรา 66.7% 7. ถั่วฝักยาว 66.7% 8. คะน้า 55.6% 9. มะม่วงน้ำดอกไม้…

Hotels/Resorts

วิธีกิน “อาหารคลีน” ให้เหมาะสมสำหรับสุขภาพและการลดน้ำหนัก

วิธีกิน “อาหารคลีน” ให้เหมาะสมสำหรับสุขภาพและการลดน้ำหนัก 1. แบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อยๆ เพื่อกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกายและลดความอยากอาหาร ควรแบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อยๆ และกินอาหารบ่อยครั้ง โดยเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ในแต่ละมื้อ 2. กินอาหารเช้าทุกวัน การกินอาหารเช้าหลังจากตื่นนอน 1 ชั่วโมงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นในการเริ่มวันใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกาย 3. เลือกกินเนื้อสัตว์ที่ไม่มีมัน ควรเลือกกินเนื้อสัตว์ที่ไม่มีมัน เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ หรือพืชตระกูลถั่ว และเลือกกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืชไม่ขัดสี และขนมปังโฮลวีท เพื่อให้ได้ปริมาณสารอาหารที่เพียงพอและสมดุลในแต่ละมื้ออาหาร 4. บริโภคอาหารที่มีไขมันดี ควรเลือกบริโภคอาหารที่มีไขมันดี เช่น ถั่ว อะโวคาโด น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันสุขภาพอื่น ๆ ไขมันดีช่วยสร้างกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ…

Hotels/Resorts

6 วิธีดื่มกาแฟให้อร่อย และสุขภาพดียิ่งขึ้น

6 วิธีดื่มกาแฟให้อร่อย และสุขภาพดียิ่งขึ้น ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ก่อนดื่มกาแฟ เมื่อเราตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง การดื่มน้ำเปล่าก่อนดื่มกาแฟจะช่วยให้ร่างกายได้รับการชุ่มชื่นอย่างเพียงพอและเติมพลังง่ายๆ ก่อนที่จะเริ่มต้นดื่มกาแฟในวันนั้น อย่าใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เมื่อคุณเพิ่มสารให้ความหวานในกาแฟ จะส่งผลให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไป แทนที่จะมีความกลมกล่อมและเข้มข้น เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริงของกาแฟ อย่าใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล อย่าเติมน้ำตาลในกาแฟเกิน 1 ช้อนชา การใส่น้ำตาลในกาแฟเป็นสิ่งที่หลายคนทำ เพื่อให้กาแฟมีรสชาติที่หวานขึ้น แต่การใส่น้ำตาลเกินไปอาจทำให้กาแฟมีความหวานมากเกินไปและทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน รับประทานกาแฟได้ความหวานที่พอดีโดยการเติมน้ำตาลไม่เกิน 1 ช้อนชา ใส่นมออร์แกนิก หรือนมจากพืช แทนนมปกติ หากคุณกำลังมองหาวิธีในการเพิ่มรสชาติที่อร่อยให้กับกาแฟของคุณ คุณสามารถลองใส่นมออร์แกนิกหรือนมจากพืชแทนนมปกติได้ นมเหล่านี้มีรสชาติที่คล้ายกับนมปกติ แต่มีส่วนประกอบที่สมบูรณ์และเป็นประโยชน์มากขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่แพ้อาหารหรือกินมังสวิรัติด้วย ใส่ผงอบเชย หรือเครื่องเทศอื่นๆ ลงไปแทนน้ำตาล หากคุณต้องการกาแฟที่มีรสชาติเพิ่มเติมและน่าตื่นเต้นกว่าเดิม ลองใส่ผงอบเชยหรือเครื่องเทศอื่นๆลงไปแทนน้ำตาล เช่น ผงคาราเมล…

Hotels/Resorts

5 วิธี รักษาโรค “หิด” ให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นซ้ำ

5 วิธี รักษาโรค “หิด” ให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นซ้ำ 1. รักษาสมาชิกในครอบครัวทุกคนพร้อมกัน การรักษาโรค “หิด” นั้นควรให้การรักษาทุกสมาชิกในครอบครัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็ตาม เนื่องจากโรคนี้อาจอยู่ในระยะฟักตัวและไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก ดังนั้นการดูแลรักษาควรเป็นรูปแบบที่ร่วมกัน เพื่อป้องกันการระบาดซ้ำของโรคในครอบครัว 2. ทำความสะอาดเครื่องใช้และที่นอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค “หิด” ควรทำความสะอาดเครื่องใช้ที่ใช้ในที่นอนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่ม ที่นอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และผ้าคลุมเตียง อาจมีเชื้อโรคสะสมอยู่บนพื้นผ้า ดังนั้นควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดเชื้อโรค 3. การดูแลเครื่องนุ่งห่มที่ซักไม่ได้ หากคุณใช้เครื่องนุ่งห่มที่ซักไม่ได้ เช่น ที่นอน หมอน พรม หรือเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ควรดูแลและทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค “หิด” คุณสามารถดูดฝุ่นหรือเก็บเครื่องนุ่งห่มเหล่านี้ไว้ในถุงพลาสติก แล้วปิดปากถุงให้แน่นและเก็บไว้ในที่อุ่นที่มีแสงแดดส่องถึงเป็นเวลาอย่างน้อย…